สนับสนุนผู้เขียน

ถ้าเห็นว่าข้อมูลเหล่านี้มีประโยชน์ โปรดร่วมสนับสนุนผู้เขียนหนังสือ โดยโอนเงินไปที่บัญชีธนาคารของผู้เขียนตามแต่กำลังศรัทธา ธนาคารกรุงไทย สาขาจันทบุรี ชื่อบัญชีนายการุณย์ บุญมานุช เลขที่บัญชี 204-1-19139-2

ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา

อย่าเลย วักกลิ ร่างกายอันเปื่อยเน่าที่เธอเห็นนี้ จะมีประโยชน์อะไร?  ดูกรวักกลิ  ผู้ใดแล เห็นธรรม ผู้นั้นชื่อว่าย่อมเห็นเรา  ผู้ใดเห็นเรา ผู้นั้นชื่อว่า ย่อมเห็นธรรม.  วักกลิเป็นความจริง บุคคลเห็นธรรม ก็ย่อมเห็นเรา บุคคลเห็นเราก็ย่อมเห็นธรรม.

ข้อความข้างต้นนั้น พระพุทธองค์ตรัสต่อพระวักกลิ  ปรากฏอยู่ในวักกลิสูตร  เป็นข้อความที่ผู้สนใจศาสนาน่าจะได้รับรู้กันทุกคน

ภาษาไทยที่แปลมาจากภาษาบาลีก็ดูง่ายๆ คือ “ผู้ใดแล เห็นธรรม ผู้นั้นชื่อว่าย่อมเห็นเรา  ผู้ใดเห็นเรา ผู้นั้นชื่อว่า ย่อมเห็นธรรม

แปลให้เป็นภาษาไทยอีกทีก็คือว่า ใครก็ตามเห็นธรรมะ บุคคลผู้นั้นก็ต้องเห็นพระพุทธเจ้า ถ้าใครเห็นพระพุทธเจ้า บุคคลผู้นั้นก็ต้องเห็นธรรมะ

สิ่งที่แปลกประหลาดมหัศจรรย์ยิ่งกว่าประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้หญิง แล้วเกิดน้ำท่วมวินาศสันตะโรก็คือ มีน้อยคนมากที่จะสามารถอธิบายให้มนุษย์มะนาธรรมดาๆ เข้าใจได้อย่างง่ายๆ

ขอยกตัวอย่างคำถามในเว็บแห่งหนึ่ง คนถามตั้งคำถามขึ้นมาดังนี้ “ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเราตถาคต เห็นแบบไหนครับถึงเรียกว่าเห็นธรรม?

คนถามกลัวว่า คนอ่านจะไม่เข้าใจก็เลยขยายความคำถามให้อีกดังนี้

พระพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ในวักกลิสูตรว่า "ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเราตถาคต" แล้วเห็นแบบไหนถึงเรียกว่า เห็นธรรมครับ การเห็นแบบนี้ สามารถสัมผัสได้ด้วย หู ตา จมูก ลิ้น และกาย คือ ประสาทสัมผัสทั้ง 5 หรือไม่ แล้วการเห็นธรรมกับการเข้าใจธรรมนี้เป็นความหมายเดียวกันหรือไม่

ปล. ที่บอกว่าสามารถสัมผัสได้ด้วย หู ตา จมูก ลิ้น และกาย คือ ประสาทสัมผัสทั้ง 5 นั้นหมายความว่า เห็นอย่างที่มนุษย์ปรกติเรามองเห็น คือ เป็นสสาร มีสถานะ ต้องการที่อยู่ และมีน้ำหนัก คือ เป็นการมองเห็นแบบนิยามตามวิทยาศาสตร์น่ะครับ

มีผู้มาให้คำตอบกันหลายคน ซึ่งก็ตอบแบบตาบอด เป็นใบ้ ปัญญาอ่านคลำช้าง โดยสรุปก็คือ อยากจะตอบ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่เข้าใจ  มีคำตอบหนึ่ง ซึ่งได้รับการลงความเห็นจากเจ้าของคำถามว่าเป็นคำตอบที่ดีที่สุด คือ คำตอบนี้

ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิติ ในวักกลิสูตรที่ว่าไว้ดั่งพระพุทธองค์ดำรัส พระวักกลิ เป็นผู้ที่หลงใหลในรูปลักษณ์ความงดงามของพระองค์มาก จนกระทั่งพระพุทธองค์ต้องขับออกจากสำนักไป เนื่องจากไม่ฝักใฝ่ในธรรมะอย่างแท้จริง

ด้วยความโทมนัสจึงจะไปกระโดดหน้าผาตาย พระพุทธองค์ตามไปพบเทศนาสั่งสอนเรื่อง "ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเราตถาคต" เพื่อให้พระวักกลิถ่ายถอน ความยึดมั่นถือมั่นในตัวพระองค์ หันมาน้อมนำในพระธรรมคำสั่งสอนแทน จนสามารถบรรลุธรรมได้ในบัดนั้น..

การเห็นอย่างธรรม คือเห็นให้ลึกและกว้าง เห็นแบบธรรมชาติ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา การเข้าใจหลักแห่ง ปัจจยตา เมื่อมีสิ่งนั้นย่อมมีสิ่งนี้

การเห็นเช่นนี้ สัมผัสได้ทุกอณูของร่างกาย ไม่ว่าจะอยู่ในสภาวะแบบไหน อริยาบถ 4 ยืน เดิน นั่ง นอน มีสติและปํญญาระลึกได้อยู่ตลอด ต้องปฎิบัติเองครับ..ใครกินใครอิ่ม....การเข้าใจธรรมมี 2 นัยยะ

1. เห็นแบบกะพี้....เปลือกนอก..ประเภทพิธีกรรม+อภินิหาร+ลาภสักการะ ไม่มีทางเข้าใจได้....... บัวเกิดมาแต่ตม แต่พอโผล่พ้นน้ำก็ไม่มี ขี้ตม..ติดมาให้เห็น..แปลกแต่จริงนะครับ..การพิจารณาคน..กับบัว 4 เหล่าจึงชาญฉลาดมาก

2. เห็นแบบแก่น เข้าถึงอย่างจริงจัง รู้และเข้าใจหลักของธรรมชาติดีว่า มีความผันแปรไป ไม่มีอะไรเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวครับ

สัมผัสได้แห่งองค์ความรู้ของตนเอง..กาย วาจา ใจ ไม่ใช่ในเชิงนิยามตามหลักวิทยาศาสตร์...ครับ

นี่ขนาดเป็นคำตอบที่ดีที่สุดแล้ว ผมก็ยังเห็นว่า “ไม่ได้เรื่อง” อยู่ดี 

ข้อมูลที่ชัดแจ้ง อ่านแล้วเข้าใจชัดเจน รู้ว่าอะไรเป็นอะไร สามารถปฏิบัติตามได้ เพราะ มีคนปฏิบัติตามแล้วได้ผลปฏิเวธตามที่เขียนไว้ในหนังสือจริงคือ หนังสือที่ชื่อว่า “ผู้เห็นดวงธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต ตถาคตคือธรรมกาย”  เล่มนี้

ท่านที่ต้องการรู้รายละเอียด ก็สามารถเข้าไปอ่านได้ในบล็อก 
ผู้ใดเห็นดวงธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต” 
ได้ ณ บัดนี้เลย...



วิชชามรรคผลพิสดาร

หนังสือตำราของหลวงพ่อวัดปากน้ำมีทั้งหมด 4 เล่ม คือ
1) ทางมรรคผล (วิธีไหว้พระบูชาก่อนเวลาภาวนา)
2) คู่มือสมภาร
3) วิชชามรรคผลพิสดาร
4) วิชชามรรคผลพิสดาร ๒

หนังสือทั้ง 4 เล่มดังกล่าวนั้น หนังสือ “วิชชามรรคผลพิสดาร” กับ หนังสือ “วิชชามรรคผลพิสดาร” มีการตีพิมพ์เมื่อหลวงพ่อวัดปากน้ำมรณภาพไปแล้ว

หนังสือวิชชามรรคผลพิสดารได้รับการตีพิมพ์หลายครั้ง ที่ผมเห็นด้วยตาของผมเองมี 3 ครั้งขึ้นไป แต่จากการสอบถามบุคคลที่เกี่ยวข้องกับวิชาธรรมกาย  ผมคิดว่า หนังสือเล่มนี้ มีการตีพิมพ์ประมาณ 10 ครั้ง

ในการตีพิมพ์ครั้งแรก ตีพิมพ์เมื่อเดือน กรกฎาคม 2517 จำนวน 500 เล่ม เป็นหนังสือปกแข็ง ผู้ที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการจัดพิมพ์ก็คือ เจ้าคุณภาวนาโกศลเถระ อาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ

เนื้อหาของหนังสือนั้น ก็อย่างที่ทราบกันโดยทั่วไป เป็นเนื้อหาของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ตั้งแต่ครั้งยังมีสมณศักดิ์เป็น “พระครูสมณธรรมสมาทาน”  ลูกศิษย์ของหลวงพ่อวัดปากน้ำคนที่รวบรวมขึ้นมาก็คือ “พระมหาจัน (ปธ.5)” ซึ่งรวบรวมไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2481

หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 6 ปี  หนังสือวิชชามรรคผลพิสดารเล่มนี้ มีทั้งหมด 46 บท

หนังสือวิชชามรรคผลพิสดารนี้ เป็นหนังสือชั้นสูงของวิชาธรรมกายชั้นเดียวกันกับ “หนังสือคู่มือสมภาร” เนื้อหาของความรู้ในบางบทเหมือนกัน

คุณลุงการุณย์ บุญมานุชกล่าวว่า

หาเรียนหลักสูตรคู่มือสมภารได้แล้ว หลักสูตรวิชชามรรคผลพิสดารไม่ยากเลย และหากว่าเรียนวิชชามรรคผลพิสดารได้แล้ว ก็สามารถเรียนหลักสูตรคู่มือสมภารได้เป็นอย่างดี

ท่านจะสนใจจะอ่านหนังสือเล่มนี้ โดยละเอียด ขอให้ไปอ่านได้ในบล็อก
วิชชามรรคผลพิสดาร” 
นี้ได้เลยในทันที ณ บัดนี้...



ทางรอดของมนุษย์มีทางเดียว

ทางรอดของมนุษย์มีทางเดียว

สมมุติว่าถ้ามีพุทธศาสนิกชนทั่วๆ ไป ที่นับถือศาสนาพุทธตามทะเบียนบ้าน แต่ไม่รู้และไม่เข้าใจเกี่ยวกับเนื้อหาคำสอนของพระพุทธองค์เลย มาถามผมว่า

ตั้งแต่เกิดมา ไม่ได้ศึกษาลงไปในรายละเอียดของศาสนาพุทธเลย ปฏิบัติตามๆ กันไปตามสังคมเท่านั้น  ตอนนี้อยากจะศึกษาเกี่ยวกับศาสนาพุทธ แต่มีเวลาน้อย ขออ่านหนังสือเพียงเล่มเดียว ควรจะอ่านหนังสือเล่มไหนดี

ผมก็จะแนะนำให้อ่านหนังสือ “ทางรอดของมนุษย์มีทางเดียวเท่านั้น  ของคุณลุงการุณย์ บุญมานุช เนื่องจากถ้าได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว และปฏิบัติตามได้บ้าง  รับรองว่า “ไม่ได้อบายภูมิ” แน่นอน

ถ้าจะอ่านหนังสือให้ลึกกว่านี้ ต่อไปก็ต้องอ่านหนังสือ “คู่มือสมภาร” ของหลวงพ่อวัดปากน้ำ เพราะ สามารถทำให้บรรลุพระอรหันต์ได้ ในกรณีที่ปฏิบัติตามได้  แค่อ่านก็จะไปบุญบารมีไปส่วนหนึ่งเท่านั้น

หนังสือ ทางรอดของมนุษย์มีทางเดียวเท่านั้น” ในการตีพิมพ์ครั้งแรกๆ เป็นการพิมพ์แจกเพื่อเป็นธรรมทาน โดยชมรมเผยพร่วิชาธรรมกาย  โดยใช้ชื่อหนังสือว่า “พระศาสดาพาเราสู่ความเป็นอารยะ ให้เราสุขภาพดี เกิดสันติแก่โลก ด้วยวิธีการอย่างไร

สิ่งที่น่าสนใจจากหนังสือ พระศาสดาพาเราสู่ความเป็นอารยะ ให้เราสุขภาพดี เกิดสันติแก่โลก ด้วยวิธีการอย่างไร ก็คือ ประโยชน์ของหนังสือที่คุณลุงการุณย์ เขียนไว้ดังนี้

- หากป่วยไข้ อาการไข้จะลดลงทันที ท่านจะมีสุขภาพดี มีใบหน้าสดใส ไม่แก่เกินวัย มีความทรงจำดี มีปัญญาฉลาด เกิดความคิดถูกทาง เห็นความสว่างของชีวิต แคล้วคลาดจากอันตราย ไม่ฆ่าตัวตาย นอนหลับเป็นสุข ตื่นขึ้นก็เป็นสุข ฝันเห็นแต่สิ่งอันเป็นมงคล

- ได้เห็นพระอริยเจ้า ได้เข้าถึงพระอริยเจ้า ได้เห็นแดนอันเกษมของพระอริยเจ้า

- โลกจะปราศจากภัยสงคราม ไม่มีการข่มเหงรังแกกัน มนุษย์จะเป็นมิตรกันทั่วโลก

ขอเชิญท่านศึกษา ท่านกำลังเดินเข้าสู่ประตูชัยแล้ว

ถ้าสงสัยว่าจะเป็นไปได้หรือไม่อย่างไร  ก็ติดตามอ่านรายละเอียดในบล็อก  
ทางรอดของมนุษย์มีทางเดียวเท่านั้น” 
ได้เลย ณ บัดนี้...